บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 5th International Conference on Highway Engineering (iCHE 2024) ภายใต้แนวคิด “Future-Proofing Roads for Asia and Beyond” ระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 5th International Conference on Highway Engineering (iCHE 2024) ภายใต้แนวคิด “Future-Proofing Roads for Asia and Beyond” ระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

การจัดงานครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกของประเทศไทย กับองค์กรชั้นนำระดับโลกอย่าง สมาคมทางหลวงโลก (PIARC) และสมาคมวิศวกรรมทางหลวงแห่งเอเชียและออสตราเลเซีย (REAAA) ร่วมจัดเวทีระดมสมองแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานชั้นนำของโลก วิศวกรวิชาชีพ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย และผู้นำในวงการอุตสาหกรรมคมนาคมทางหลวงจากทั่วโลก ในประเด็นเกี่ยวกับระบบคมนาคมทางหลวงแห่งอนาคตของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้แนวคิด “Future-proofing Roads for Asia and Beyond” มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมทางหลวงให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของสังคมเมือง เทคโนโลยีดิจิทัล สภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น

ในงานนี้ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีแก่ผู้เข้าชมงานทั้ง 2 วัน โดยหัวข้อแรกคือ “Paving Future Roads” นำเสนอโดยบริษัท นิลา โซลูชั่นส์ จำกัด  ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์และระบบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ครบวงจร เพื่อใช้ตรวจสอบ ติดตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างถนนและควบคุมการใช้วัสดุต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับเหมางานก่อสร้างและบำรุงถนน สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างแม่นยำและบริหารโครงการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหัวข้อที่สองนำเสนอโดยพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท นิกโก้ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้หัวข้อ “Asphalt Hot In-plant Recycling: Paving the Way for a Green & Sustainable Road Infrastructure” โดยนำเสนอเทคโนโลยีของเครื่องผสมแอสฟัลต์คอนกรีตที่นำวัสดุจากชั้นทางเดิมมาปรับปรุงคุณภาพแล้วนำไปใช้งานใหม่ เป็นวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถลดการใช้วัสดุหินใหม่และลดปริมาณขยะของวัสดุเก่า อีกทั้งช่วยประหยัดแอสฟัลต์ซีเมนต์ และลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเครื่องผสมแอสฟัลต์คอนกรีตดังกล่าว มีประสิทธิภาพสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทาน มีค่าบำรุงรักษาต่ำ และมีประสิทธิภาพสูงในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง

การร่วมงานครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่น และความพร้อมของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางหลวงของประเทศไทยให้มีความทันสมัยทันต่อการเปลี่ยนแปลงและรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต โดยงานนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 1,600 คน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จาก 7 ทวีป 45 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและความสนใจในประเด็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมทางหลวงให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต

Recommended Posts